การดูแลเครื่องประดับทอง: เคล็ดลับในการรักษาความเงางามและความสวยงามของชิ้นงานล้ำค่า

เครื่องประดับทองเป็นสัญลักษณ์แห่งความมั่งคั่ง ความสง่างาม และความงามที่ไร้กาลเวลา ผู้คนทั่วโลกหลงใหลในเสน่ห์ของทองคำมาเป็นเวลาหลายศตวรรษ ไม่ว่าจะเป็นสร้อยคอทองคำอันประณีต แหวนมรดกตกทอด หรือสร้อยข้อมือสุดหรู ทุกชิ้นล้วนมีคุณค่าทางจิตใจและมูลค่าทางการเงิน

อย่างไรก็ตาม แม้ทองคำจะคงทนและเปล่งประกาย แต่หากไม่ได้รับการดูแลที่เหมาะสม ฝุ่น เหงื่อ และสิ่งสกปรกจากการใช้งานในชีวิตประจำวันอาจทำให้ความเงางามลดลงได้ ข่าวดีคือ เพียงแค่การดูแลอย่างถูกวิธีและสม่ำเสมอ คุณก็สามารถรักษาเครื่องประดับทองของคุณให้สวยงามและเปล่งประกายเหมือนวันแรกที่ได้มา พร้อมคงคุณค่าไว้ตราบนานเท่านาน

💖ทำไมเครื่องประดับทองถึงต้องการการดูแลเป็นพิเศษ

ทองคำเป็นที่รู้จักกันดีในเรื่องความทนทาน มักถูกมองว่าเป็นโลหะที่สามารถคงอยู่ได้ตลอดกาล แต่ในขณะเดียวกัน แม้ทองคำจะทนทานต่อการเกิดคราบและการเป็นสนิม แต่มันก็ไม่ได้แข็งแกร่งไร้ที่ติ ทองคำบริสุทธิ์ (24K) เป็นโลหะที่นุ่มและสามารถดัดแปลงได้ง่าย ทำให้มีโอกาสถูกขีดข่วนหรือบุบสลายได้ง่าย โดยเฉพาะเมื่อมันถูกทำเป็นเครื่องประดับที่ต้องสวมใส่ในชีวิตประจำวัน แม้ทองผสมที่ผสมกับโลหะอื่นๆ เช่น เงินหรือทองแดง เพื่อเพิ่มความแข็งแรง ก็ยังสามารถเสื่อมสภาพได้ตามกาลเวลา

ผู้หญิงคนหนึ่งที่กำลังชื่นชมเครื่องประดับทองของเธอ แสดงให้เห็นถึงความเงางามและความงามของมัน โดยเน้นความสำคัญของการดูแลที่ถูกต้องเพื่อให้มันคงความสวยงามยาวนาน

ความบอบบางของทองทำให้มันต้องการการดูแลเป็นพิเศษเพื่อรักษาความเงางามและประกายที่เป็นเอกลักษณ์ การสัมผัสกับฝุ่น ครีม โลชั่น น้ำหอม เหงื่อ และมลภาวะต่างๆ สามารถทำให้ทองเสียเงางามไป และถ้าไม่ได้รับการเก็บรักษาอย่างเหมาะสมหรือถูกกระทบกระเทือนอย่างแรง อาจทำให้เกิดรอยขีดข่วนหรือแม้แต่แตกหักได้ ดังนั้นการดูแลและทำความสะอาดเครื่องประดับทองอย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้มันคงความสวยงามและประกายสดใสเหมือนวันแรกที่คุณสวมใส่

✨การทำความสะอาดเครื่องประดับทอง

เคล็ดลับการทำความสะอาดที่บ้าน:

1. วิธีการใช้สบู่อ่อนและน้ำอุ่น หนึ่งในวิธีที่ง่ายและปลอดภัยที่สุดในการทำความสะอาดเครื่องประดับทองที่บ้านคือการใช้น้ำสบู่อ่อนและน้ำอุ่นผสมกัน ผสมสบู่ล้างจานอ่อนๆ สองสามหยดกับน้ำอุ่น แล้วแช่เครื่องประดับของคุณไว้สักครู่ วิธีนี้ช่วยให้สิ่งสกปรกและน้ำมันที่สะสมมาตลอดเวลาหลุดออก หลังจากแช่แล้ว ใช้นิ้วมือหรือผ้าทำความสะอาดอย่างเบามือเพื่อขจัดสิ่งตกค้าง รินน้ำสะอาดและเช็ดให้แห้งด้วยผ้านุ่มเพื่อหลีกเลี่ยงรอยน้ำ
2. การใช้แปรงขนอ่อน สำหรับการออกแบบที่มีรายละเอียดและช่องเล็กๆ แปรงขนอ่อนเหมาะสมที่สุดสำหรับการทำความสะอาดที่อ่อนโยน จุ่มแปรงลงในน้ำสบู่อุ่นแล้วขัดเบาๆ โดยเฉพาะในบริเวณที่มีการตั้งของอัญมณีและรอยบากที่สิ่งสกปรกสามารถเก็บได้ ต้องระวังอย่ากดแรงเกินไป เพราะอาจทำให้พื้นผิวเกิดรอยขีดข่วนได้ เสมอให้ล้างด้วยน้ำสะอาดและเช็ดให้แห้งด้วยผ้านุ่ม
3. หลีกเลี่ยงการทำความสะอาดด้วยวิธี DIY ที่ไม่เหมาะสม แม้ว่าจะล่อลวงให้ลองทำสารทำความสะอาดเอง แต่ก็มีบางส่วนผสมที่ควรหลีกเลี่ยง เช่น สารเคมีที่แรง เช่น แอมโมเนีย น้ำยาฟอกขาว หรือ น้ำส้มสายชู อาจทำให้โลหะเสียหายและอ่อนแอลงตามเวลา นอกจากนี้ วัสดุที่มีความขรุขระ เช่น เบกกิ้งโซดาหรือเกลือ อาจทำให้ผิวทองเกิดรอยขีดข่วนและทำให้เงางามลดลง ควรเลือกใช้วิธีการทำความสะอาดที่อ่อนโยนและไม่ขัดถู

การทำความสะอาดจากมืออาชีพ:

เมื่อไหร่และทำไมถึงควรขอความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญ แม้ว่าวิธีการทำความสะอาดที่บ้านจะเหมาะสมสำหรับการดูแลทั่วไป แต่ก็มีบางกรณีที่ต้องพึ่งพาผู้เชี่ยวชาญ ถ้าเครื่องประดับทองของคุณมีรอยขีดข่วนหรือมีการเสื่อมสภาพมาก ควรนำไปให้ช่างทองมืออาชีพดูแล ผู้เชี่ยวชาญมีเครื่องมือและสารทำความสะอาดที่เหมาะสมในการฟื้นฟูความเงางามโดยไม่ทำให้เกิดความเสียหาย

นอกจากนี้ ถ้าเครื่องประดับของคุณมีอัญมณีล้ำค่า บางชนิดอาจต้องการการดูแลพิเศษในการทำความสะอาด ช่างทองมืออาชีพสามารถทำให้เครื่องประดับทองและอัญมณีของคุณได้รับการทำความสะอาดอย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ ทำให้มันคงความสวยงามได้นานหลายปี อย่ารอจนกว่าความเสียหายจะเห็นได้ชัด การทำความสะอาดอย่างมืออาชีพเป็นประจำสามารถป้องกันการสึกหรอในระยะยาว

💎การเก็บรักษาเครื่องประดับทองอย่างถูกวิธี

การหลีกเลี่ยงรอยขีดข่วน: แม้ว่าเครื่องประดับทองจะทนทาน แต่ก็ยังสามารถเกิดรอยขีดข่วนได้หากเก็บไม่ถูกวิธี เพื่อหลีกเลี่ยงการขีดข่วน ควรเก็บแต่ละชิ้นแยกจากกัน โดยการใช้ถุงผ้านุ่มหรือช่องเก็บเครื่องประดับที่บุด้วยผ้ากำมะหยี่ในกล่องเก็บเครื่องประดับ ซึ่งจะช่วยป้องกันไม่ให้เครื่องประดับเกิดการเสียดสีซึ่งกันและกันและลดโอกาสที่จะเกิดรอยขีดข่วน การทิ้งเครื่องประดับไว้ในลิ้นชักโดยไม่มีการจัดระเบียบอาจทำให้มันพันกันหรือเกิดความเสียหายได้

การป้องกันการเกิดคราบดำ: แม้ทองจะไม่ค่อยเกิดคราบดำเหมือนโลหะอื่นๆ แต่หากไม่ได้รับการดูแลอย่างดี ก็อาจทำให้สูญเสียความเงางามไปได้ เพื่อป้องกันการเกิดคราบดำ ควรใช้แถบหรือผ้าป้องกันการเกิดคราบดำ ซึ่งแถบเหล่านี้ถูกออกแบบมาเพื่อดูดซับความชื้นและป้องกันไม่ให้สิ่งที่ทำให้เกิดคราบดำสัมผัสกับเครื่องประดับทอง เพียงแค่ใส่แถบป้องกันลงในกล่องหรือถุงเก็บเครื่องประดับ อีกทั้งผ้าป้องกันคราบดำยังสามารถใช้เช็ดเครื่องประดับก่อนเก็บ เพื่อให้ปราศจากน้ำมันและสารตกค้างอื่นๆ ที่อาจทำให้เกิดความเสียหาย

ความสำคัญของการเก็บในสภาพแวดล้อมที่เย็นและแห้ง: สภาพแวดล้อมที่ใช้ในการเก็บเครื่องประดับทองมีผลต่อสภาพระยะยาวของมัน สถานที่ที่เย็นและแห้งเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด ความชื้นและอุณหภูมิที่สูงเกินไปอาจส่งผลต่อรูปลักษณ์ของโลหะและทำให้เกิดการคราบดำหรือความเสียหายได้ ควรหลีกเลี่ยงการเก็บเครื่องประดับทองในที่ที่มีความชื้นสูง เช่น ห้องน้ำ ควรเลือกเก็บในลิ้นชักหรือที่ที่ห่างจากแสงแดดหรือแหล่งความร้อน จุดประสงค์คือการเก็บเครื่องประดับในสภาพแวดล้อมที่มั่นคงและปลอดภัย เพื่อรักษาความสวยงามและความเงางามของมันในระยะยาว

💍การสวมใส่เครื่องประดับทองอย่างชาญฉลาด

ข้อควรระวังในชีวิตประจำวัน:

1. หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับสารเคมีที่รุนแรง: เครื่องประดับทองสามารถได้รับผลกระทบจากสารเคมีที่พบในผลิตภัณฑ์ในชีวิตประจำวัน เช่น น้ำหอม, ครีมบำรุงผิว, และสารทำความสะอาด สารเหล่านี้อาจทำให้ทองหมองคล้ำหรือเสียหายเมื่อใช้งานไปนานๆ เพื่อให้เครื่องประดับของคุณยังคงเงางาม ควรหลีกเลี่ยงการพ่นน้ำหอมโดยตรงบนเครื่องประดับและถอดเครื่องประดับออกก่อนทาครีมหรือโลชั่น ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด เช่น น้ำยาฟอกขาวหรือแอมโมเนีย อาจทำให้เครื่องประดับเสียหายได้ ดังนั้นควรถอดเครื่องประดับออกก่อนทำความสะอาดหรือใช้สารเคมีเหล่านี้
2. ถอดเครื่องประดับก่อนว่ายน้ำหรือออกกำลังกาย: น้ำโดยเฉพาะน้ำทะเลและคลอรีนสามารถทำให้เครื่องประดับทองเสียหาย การว่ายน้ำในทะเลหรือสระว่ายน้ำสามารถทำให้เกิดการหมองคล้ำหรือทำให้เครื่องประดับสูญเสียความเงางาม เช่นเดียวกับการออกกำลังกายที่สามารถทำให้เหงื่อสัมผัสกับเครื่องประดับ ซึ่งเหงื่อมีทั้งเกลือและสารต่างๆ ที่อาจส่งผลเสียต่อโลหะ ดังนั้น เพื่อรักษาความเงางามและสภาพของเครื่องประดับ ควรถอดเครื่องประดับออกก่อนว่ายน้ำ อาบน้ำ หรือออกกำลังกาย

เคล็ดลับการเดินทาง:

1. วิธีที่ดีที่สุดในการขนส่งเครื่องประดับทองอย่างปลอดภัย: เมื่อเดินทาง สิ่งสำคัญคือต้องเก็บรักษาเครื่องประดับทองให้ปลอดภัยและไม่เสียหาย เพื่อหลีกเลี่ยงการสูญหายหรือความเสียหาย ควรเก็บเครื่องประดับในกล่องที่มีการป้องกันอย่างดี โดยแนะนำให้มีช่องแยกสำหรับแต่ละชิ้นเพื่อป้องกันการกระแทกหรือการเสียดสี ถ้าต้องการความปลอดภัยมากขึ้น ควรใช้กล่องหรือถุงที่สามารถล็อคได้เพื่อป้องกันการโจรกรรม หากเดินทางโดยเครื่องบิน ควรเก็บเครื่องประดับในกระเป๋าถือแทนที่จะเป็นกระเป๋าสัมภาระที่ฝากไว้ เพื่อป้องกันการสูญหายหรือการถูกขโมย นอกจากนี้ ควรหลีกเลี่ยงการสวมใส่เครื่องประดับมีค่ามากเกินไปเมื่อเดินทาง เพราะอาจดึงดูดความสนใจจากคนอื่น

🔍การตรวจสอบและบำรุงรักษาเป็นประจำ

การตรวจสอบความเสียหาย: การตรวจสอบเครื่องประดับทองของคุณอย่างสม่ำเสมอเพื่อหาความเสียหายเป็นส่วนสำคัญในการรักษาความสวยงามของมัน ควรใช้เวลาตรวจสอบตัวล็อค การตั้งหิน และโซ่เครื่องประดับเพื่อหาสัญญาณของการสึกหรอหรือความหลวม เมื่อใช้งานไปนานๆ ตัวล็อคอาจอ่อนแอลง และการตั้งหินอาจหลวม โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการใช้งานที่บ่อย โซ่ที่บางอาจยืดหรือขาดได้ การตรวจพบความเสียหายในระยะเริ่มต้นจะช่วยให้คุณแก้ไขปัญหาก่อนที่มันจะกลายเป็นปัญหาที่ใหญ่กว่า เช่น การสูญหายของอัญมณีหรือการแตกหักของเครื่องประดับ ควรทำการตรวจสอบทุกๆ 3 ถึง 6 เดือนเพื่อให้มั่นใจว่าเครื่องประดับของคุณยังคงมั่นคงและใช้งานได้ดี

คำแนะนำในการขัดเงา: การขัดเงาเครื่องประดับทองเป็นวิธีที่ดีในการรักษาความเงางามและประกายของมัน ความถี่ในการขัดเงาจะขึ้นอยู่กับความถี่ในการสวมใส่ ถ้าคุณใส่เครื่องประดับทุกวัน การขัดเงาทุก 3 ถึง 6 เดือนจะช่วยให้มันคงความเงางาม แต่ถ้าคุณใส่เครื่องประดับทองเป็นครั้งคราว การขัดเงาปีละครั้งอาจเพียงพอ ใช้ผ้านุ่มที่ไม่ทำลายพื้นผิวหรือผ้าขัดทองเพื่อหลีกเลี่ยงการขีดข่วนบนผิวเครื่องประดับ ขณะที่ขัดควรเช็ดเบาๆ ในทิศทางวงกลมเพื่อรักษาความสมบูรณ์ของโลหะ หลีกเลี่ยงการขัดเงามากเกินไป เพราะการขัดเงาเกินไปอาจทำให้ทองบางลงได้ การขัดเงาอย่างนุ่มนวลเป็นประจำจะช่วยให้เครื่องประดับคงความเงางามสดใสและป้องกันการเกิดคราบดำ

❌ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับการดูแลเครื่องประดับทอง

ความเข้าใจผิดที่ 1: การใช้ยาสีฟันทำความสะอาดเครื่องประดับทอง หนึ่งในความเข้าใจผิดที่พบบ่อยคือการใช้ยาสีฟันทำความสะอาดเครื่องประดับทอง แม้ว่ายาสีฟันจะทำความสะอาดฟันได้ดี แต่ยาสีฟันมีความขรุขระและอาจทำให้พื้นผิวของเครื่องประดับทองเป็นรอยได้ ซึ่งจะทำให้เครื่องประดับหมองคล้ำเมื่อเวลาผ่านไป และอาจทำให้การตั้งหินอ่อนแอลงได้ ควรใช้สารละลายที่อ่อนโยนจากน้ำอุ่นและสบู่อ่อน หรือใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดเครื่องประดับทองโดยเฉพาะเพื่อรักษาความสวยงามของเครื่องประดับ

ความเข้าใจผิดที่ 2: เครื่องประดับทองไม่หมองคล้ำ หลายคนเชื่อว่าเครื่องประดับทองไม่หมองคล้ำ แต่ความจริงคือเครื่องประดับทองบริสุทธิ์ (24K) จะทนทานต่อการหมองคล้ำ แต่เครื่องประดับทองส่วนใหญ่ทำจากโลหะผสมที่มีโลหะอื่นๆ เช่น ทองแดงหรือเงิน ซึ่งโลหะเหล่านี้อาจเกิดการออกซิเดชั่นเมื่อเวลาผ่านไป ทำให้เครื่องประดับหมองคล้ำหรือสูญเสียความเงางาม การทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอและการเก็บรักษาที่เหมาะสมจึงเป็นสิ่งสำคัญในการป้องกันการหมองคล้ำ เครื่องประดับที่เคลือบทองหรือทองเต็มก็มีแนวโน้มที่จะหมองคล้ำมากกว่าด้วยเพราะเคลือบทองบางๆ ดังนั้น ถึงแม้ทองจะทนทานสูง แต่ก็ยังต้องการการดูแลรักษาเพื่อคงความสวยงาม

ความเข้าใจผิดที่ 3: เครื่องประดับทองไม่จำเป็นต้องถอดออก อีกความเข้าใจผิดคือการที่สามารถสวมเครื่องประดับทองได้ตลอดเวลาโดยไม่มีผลเสียอะไร แม้าทองจะทนทาน แต่การสวมเครื่องประดับตลอดเวลาสามารถทำให้มันสัมผัสกับสภาวะที่รุนแรงซึ่งอาจทำให้เกิดการสึกหรอ เช่น การล้างจาน การว่ายน้ำในน้ำคลอรีน หรือการออกกำลังกาย สามารถทำให้เครื่องประดับเสียหายได้ การถอดเครื่องประดับทองก่อนทำกิจกรรมเหล่านี้จะช่วยรักษาความสมบูรณ์และความสวยงามของมัน

ความเข้าใจผิดที่ 4: ยิ่งขัดเงามากยิ่งดี บางคนคิดว่าการขัดเงาเครื่องประดับทองอย่างต่อเนื่องจะทำให้มันเงางามตลอดไป ความจริงคือการขัดเงามากเกินไปอาจทำให้ทองบางลงได้โดยเฉพาะถ้าทำด้วยวัสดุที่ขรุขระ การขัดเงาควรทำอย่างระมัดระวังและเบาๆ โดยใช้ผ้าที่ไม่ทำลายพื้นผิว การขัดเงาอย่างนุ่มนวลและเป็นประจำจะช่วยรักษาความเงางามของทองโดยไม่เสี่ยงต่อความเสียหาย

📝บทสรุป

การดูแลเครื่องประดับทองไม่จำเป็นต้องยุ่งยาก แต่ต้องใช้ความใส่ใจและความพยายามเล็กน้อยเพื่อรักษาความสวยงามและมูลค่าของมัน การเข้าใจว่าทองต้องการการดูแลพิเศษ การทำความสะอาดอย่างอ่อนโยน การเก็บรักษาอย่างถูกวิธี และการปฏิบัติตามกฎง่ายๆ ในการสวมใส่และบำรุงรักษาจะช่วยให้เครื่องประดับของคุณยังคงเงางามได้ตลอดไป การตรวจสอบความเสียหายอย่างสม่ำเสมอ การขัดเงาอย่างระมัดระวัง และการหลีกเลี่ยงความเข้าใจผิด เช่น การใช้ยาสีฟันในการทำความสะอาด จะช่วยปกป้องเครื่องประดับของคุณจากการสึกหรอและการหมองคล้ำที่ไม่จำเป็น

การนำเคล็ดลับเหล่านี้ไปปฏิบัติอาจดูเหมือนเป็นขั้นตอนเล็กๆ แต่สามารถสร้างความแตกต่างอย่างมากในการรักษาความเงางามของเครื่องประดับทองของคุณ ไม่ว่าคุณจะใส่มันทุกวันหรือเก็บไว้ใช้ในโอกาสพิเศษ เครื่องประดับทองของคุณจะยังคงเปล่งประกายด้วยการดูแลอย่างเหมาะสม ดังนั้น ให้ทำตามคำแนะนำเหล่านี้ รักษาความสม่ำเสมอ และเพลิดเพลินไปกับความงามอันเป็นนิรันดร์ของเครื่องประดับของคุณไปอีกหลายปีข้างหน้า! หากคุณต้องการเคล็ดลับเพิ่มเติมเกี่ยวกับการดูแลเครื่องประดับทอง สามารถอ่านเพิ่มเติมได้จาก เคล็ดลับในบล็อกของเรา

🤔คำถามที่พบบ่อย (FAQs)

1. ฉันสามารถใส่เครื่องประดับทองในขณะอาบน้ำได้ไหม? ควรถอดเครื่องประดับทองก่อนอาบน้ำค่ะ ถึงแม้ทองจะทนทานต่อน้ำ แต่การสัมผัสกับสบู่ แชมพู หรือสารเคมีอื่นๆ ในห้องน้ำสามารถทำให้เครื่องประดับหมองคล้ำได้ อีกทั้งการใส่เครื่องประดับอาบน้ำเป็นประจำอาจทำให้เกิดรอยขีดข่วนและการหมองคล้ำได้ในระยะยาว การถอดเครื่องประดับออกจะช่วยรักษาความสวยงามของมัน

2. ควรทำความสะอาดเครื่องประดับทองบ่อยแค่ไหน? ความถี่ในการทำความสะอาดขึ้นอยู่กับการใช้งาน หากคุณใส่เครื่องประดับทุกวัน ควรทำความสะอาดเบาๆ ทุก 2-3 สัปดาห์ สำหรับเครื่องประดับที่ใส่น้อยครั้ง สามารถทำความสะอาดทุก 1-2 เดือน หากเครื่องประดับของคุณดูหมองหรือสกปรก สามารถทำความสะอาดทันทีแม้จะยังไม่ถึงระยะเวลาที่กำหนด

3. วิธีที่ดีที่สุดในการเก็บสร้อยทองคืออะไร? เพื่อป้องกันไม่ให้สร้อยทองพันกันและเสียหาย ควรเก็บแยกจากเครื่องประดับชิ้นอื่นๆ การเก็บในกระเป๋านุ่มหรือกล่องเครื่องประดับที่บุด้วยผ้านุ่มเป็นตัวเลือกที่ดี คุณยังสามารถใช้กระเป๋าเก็บเครื่องประดับเพื่อรักษาความเรียบร้อยระหว่างการเดินทาง ซึ่งจะช่วยป้องกันไม่ให้สร้อยพันกันและเกิดรอยขีดข่วน

4. ฉันสามารถใช้น้ำส้มสายชูทำความสะอาดเครื่องประดับทองได้ไหม? ไม่แนะนำให้ใช้น้ำส้มสายชูทำความสะอาดเครื่องประดับทองค่ะ เพราะน้ำส้มสายชูมีกรดที่อาจทำให้โลหะหรืออัญมณีที่อยู่ในเครื่องประดับเสียหาย ควรใช้สบู่อ่อนกับน้ำอุ่นหรือผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดเครื่องประดับทองโดยเฉพาะเพื่อให้ได้ผลดีที่สุด

5. ทำไมเครื่องประดับทองของฉันถึงดูหมองคล้ำ? การหมองคล้ำอาจเกิดขึ้นได้เมื่อเครื่องประดับสัมผัสกับสิ่งสกปรก น้ำมันจากผิว หรือสารเคมีจากโลชั่นและน้ำหอม การทำความสะอาดเครื่องประดับทองด้วยน้ำสบู่อุ่นและผ้านุ่มจะช่วยคืนความเงางามให้กับมัน หากเครื่องประดับยังดูหมองคล้ำอยู่ อาจเป็นสัญญาณของการเกิดสนิม โดยเฉพาะถ้าเครื่องประดับทำจากโลหะผสมทองหรือเคลือบทอง ซึ่งต้องการการดูแลมากกว่าทองบริสุทธิ์