1. Michael B.
  2. blog
  3. เทรนด์ที่ควรเลิกในเครื่องประดับ หรือสิ่งที่ควรปล่อยไว้ในปี 2024

เทรนด์ที่ควรเลิกในเครื่องประดับ หรือสิ่งที่ควรปล่อยไว้ในปี 2024

2025-05-15
เทรนด์ที่ควรเลิกในเครื่องประดับ

เทรนด์เครื่องประดับที่ควรเลิกใช้ในปี 2024 แนะนำวิธีเลือกสไตล์คลาสสิกและคุณภาพสูง เพื่อหลีกเลี่ยงความผิดพลาดในการแต่งตัวอย่างมีสไตล์!

แฟชั่นเครื่องประดับนั้นเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและต่อเนื่องในทุกฤดูกาล มีเทรนด์ใหม่ๆ เกิดขึ้นมากมายที่ทำให้เราต้องปรับตัวตาม แต่บางครั้ง การรู้จักที่จะบอกลาหรือหลีกเลี่ยงเทรนด์บางอย่างก็เป็นเรื่องสำคัญ เพื่อให้สไตล์ของเรายังคงดูทันสมัยและมีความคลาสสิก ไม่ตกยุคเร็วเกินไป ในบทความนี้ เราจะมาพูดถึง “แอนตี้เทรนด์” หรือแฟชั่นเครื่องประดับที่ควรหลีกเลี่ยงและควรปล่อยวางในปี 2024 เพราะการตัดสินใจเลือกเครื่องประดับที่เหมาะสม ไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มความโดดเด่นให้กับลุคของคุณ แต่ยังช่วยให้คุณมีสไตล์ที่ยั่งยืนและไม่ตกเทรนด์เร็วเกินไป พร้อมกันนี้ เราจะพูดถึงเหตุผลที่ทำไมเทรนด์เหล่านี้ควรถูกทิ้งไว้เบื้องหลัง และแนะนำแนวทางเลือกเครื่องประดับที่เหมาะสมกับยุคสมัยใหม่มากขึ้น เพื่อให้คุณได้สร้างลุคที่สวยงาม โดดเด่น และตอบโจทย์ความเป็นตัวเองในปีนี้ได้อย่างมั่นใจ

โซ่เส้นเล็กและเครื่องประดับแบบ “ล่องหน”

ทำไมความมินิมอลที่มากเกินไปถึงเริ่มกลายเป็นสิ่งน่าเบื่อ

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เทรนด์เครื่องประดับสไตล์มินิมอล เช่น สร้อยโซ่เส้นบาง หรือเครื่องประดับที่แทบมองไม่เห็น ได้รับความนิยมอย่างมาก ด้วยความเรียบง่ายและความเบาสบายในการสวมใส่ แต่เมื่อสิ่งเหล่านี้กลายเป็นกระแสหลักจนเกินพอดี ผู้คนเริ่มรู้สึกว่า "น้อยเกินไป" ก็ไม่ใช่คำตอบที่ดีที่สุดเสมอไป

เมื่อเครื่องประดับ “ล่องหน” ไม่ตอบโจทย์อีกต่อไป

เครื่องประดับมีหน้าที่หลักคือ "ตกแต่ง" และ "เสริมบุคลิกภาพ" แต่เมื่อมันบางเบาจนแทบไม่เห็น มันก็อาจสูญเสียบทบาทนั้นไป ผู้คนเริ่มโหยหาความมีเอกลักษณ์และจุดเด่นที่มองเห็นได้ชัดเจนมากกว่าเดิม

การกลับมาของดีไซน์ที่ชัดเจนและโดดเด่น

  • เครื่องประดับเริ่มหันกลับไปหาดีไซน์ที่มีน้ำหนัก มีรูปทรงชัดเจน และแสดงออกถึงความกล้า
  • การเลือกใช้วัสดุและรูปทรงที่สะดุดตากลายเป็นสิ่งที่หลายคนมองหา
  • สไตล์ที่สะท้อนความเป็นตัวเองมากกว่าการหลบซ่อนในความเรียบง่าย

แม้มินิมอลจะยังคงเป็นแนวทางที่ได้รับความนิยม แต่ก็ถึงเวลาที่แฟชั่นจะหันกลับมาให้ความสำคัญกับ “พลังของการแสดงออก” ผ่านเครื่องประดับที่มีเอกลักษณ์และโดดเด่นอีกครั้ง

เครื่องประดับที่มีตัวอักษร/ชื่อ

กระแสความนิยมของอักษรย่อ ชื่อ หรือข้อความ – ทำไมถึงเริ่มดูเชยลงเรื่อย ๆ

ช่วงหนึ่งเครื่องประดับที่มีตัวอักษร ไม่ว่าจะเป็นอักษรย่อของชื่อ ข้อความ หรือชื่อเต็ม ได้รับความนิยมอย่างมาก เพราะให้ความรู้สึกเป็นของเฉพาะตัวและแสดงถึงตัวตนของผู้สวมใส่ แต่เมื่อกระแสนี้เริ่มถูกใช้ซ้ำบ่อยครั้งและขาดความแปลกใหม่ มันจึงเริ่มถูกมองว่า “เชย” หรือ “เก่า” ไปแล้วในสายตาของหลายคน

เสี่ยงต่อความไม่สมวัยและดูไม่แพง

  • เครื่องประดับที่มีชื่อหรือข้อความ มักมีดีไซน์ที่เน้นความน่ารักหรือเล่นสนุก ซึ่งอาจทำให้ลุคโดยรวมดูเหมือนเด็ก หรือดูไม่จริงจัง
  • หากเลือกผิดดีไซน์หรือฟอนต์ อาจทำให้ดูขัดกับความหรูหราหรือความมีสไตล์ที่ต้องการจะสื่อ
  • บางครั้งอาจไปไกลถึงขั้นดู “คิช” หรือหลุดจากความงามทางแฟชั่นแบบร่วมสมัย

ทางเลือกใหม่ที่มีความหมายและดูโตขึ้น

  • สัญลักษณ์: เช่น ดวงดาว ดวงจันทร์ ดอกไม้ หรือสัตว์ ที่สะท้อนความเชื่อหรือบุคลิก
  • หินธรรมชาติหรือคริสตัล: เลือกหินที่มีความหมายเฉพาะ เช่น โรสควอตซ์เพื่อความรัก อาเมทิสต์เพื่อความสงบ
  • ดีไซน์เรียบแต่มีความหมาย: เครื่องประดับที่อาจดูเรียบ แต่แฝงด้วยเรื่องราวหรือความทรงจำเฉพาะของผู้สวมใส่

แม้เครื่องประดับที่มีตัวอักษรจะยังมีเสน่ห์ในบางโอกาส แต่การเลือกสิ่งที่ลึกซึ้งและมีชั้นเชิงมากขึ้น จะช่วยยกระดับสไตล์ให้ดูมีความคิด มีรสนิยม และมีเอกลักษณ์ที่ยั่งยืนกว่า

ไข่มุกในปริมาณที่มากเกินไป

ไข่มุกเคยเป็นสัญลักษณ์แห่งความหรูหราและความคลาสสิก แต่เมื่อกระแสแฟชั่นสไตล์ “Granny Chic” หรือความเก๋แบบคุณยายเริ่มได้รับความนิยม ไข่มุกก็ถูกนำมาใช้ในทุกฟอร์ม ทั้งสร้อยคอ ต่างหู แหวน หรือแม้แต่เครื่องแต่งกายและกระเป๋า ส่งผลให้เสน่ห์ของไข่มุกเริ่มลดลงเพราะความซ้ำซากและคาดเดาได้ง่าย ความหรูหราที่เคยดูสง่างามเริ่มกลายเป็นความจำเจเมื่อใช้มากเกินความพอดี

ไข่มุกจำนวนมากในลุคเดียวอาจทำให้ภาพรวมดูเชยและไม่ทันสมัย โดยเฉพาะเมื่อไม่มีการมิกซ์แอนด์แมทช์กับชิ้นอื่นที่ช่วยเสริมสไตล์ให้ดูร่วมสมัย แทนที่ไข่มุกจะเป็นจุดเด่น มันกลับกลายเป็นองค์ประกอบที่ดูคาดเดาได้และไร้ความสดใหม่ ความสง่างามจึงกลายเป็นเพียงภาพจำซ้ำ ๆ ที่ไม่สร้างแรงบันดาลใจ

การใส่ไข่มุกให้ดูทันสมัยจึงต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์ การจับคู่ไข่มุกกับเสื้อผ้าแนวลำลอง เช่น เสื้อยืด เดนิม หรือแจ็กเก็ตทรงโอเวอร์ไซส์ จะช่วยเพิ่มความเก๋และทันสมัยมากขึ้น การเลือกไข่มุกที่มีรูปทรงไม่สมบูรณ์แบบหรือดีไซน์แปลกใหม่จะทำให้ดูมีชีวิตชีวา และหากรู้สึกว่าไข่มุกเริ่มน่าเบื่อ บางครั้งการเว้นช่วงและให้มันได้ “พัก” ก็เป็นทางเลือกที่ดีในการเปิดพื้นที่ให้กับสไตล์ใหม่ ๆ ที่สดชื่นและไม่จำเจ

เครื่องประดับจากร้านแฟชั่นแบรนด์ใหญ่ที่อินเทรนด์แต่ไม่คงทน

เครื่องประดับจากร้านแฟชั่นแบรนด์ใหญ่หรือที่เรียกกันว่า “เครื่องประดับแฟชั่นราคาย่อมเยา” มักมีดีไซน์ทันสมัยและตามเทรนด์อยู่เสมอ ทำให้เป็นที่นิยมอย่างรวดเร็วในหมู่ผู้บริโภค แต่เบื้องหลังความสวยงามชั่วครู่ คือปัญหาใหญ่ด้านคุณภาพและสิ่งแวดล้อม วัสดุที่ไม่คงทน สีลอกง่าย หรือชิ้นส่วนที่แตกหักได้ในเวลาอันสั้น ส่งผลให้เครื่องประดับเหล่านี้มีอายุการใช้งานสั้น และกลายเป็นขยะในเวลาไม่นาน

นี่คือรูปแบบหนึ่งของ “แฟชั่นเร็ว” หรือ Fast Fashion ที่แพร่กระจายมาสู่โลกของเครื่องประดับเช่นกัน เมื่อเครื่องประดับเสื่อมสภาพเร็วและถูกทิ้งบ่อยครั้ง ก็ยิ่งเพิ่มปัญหาขยะและทรัพยากรที่สูญเปล่าจากการผลิตซ้ำ ๆ สิ่งที่พังเร็ว ไม่ควรถูกสร้างขึ้นมาใหม่ซ้ำแล้วซ้ำเล่า เพราะท้ายที่สุดมันไม่เพียงแต่ทำร้ายโลก แต่ยังทำร้ายกระเป๋าสตางค์ของผู้บริโภคในระยะยาว

ทางเลือกที่ยั่งยืนและมีคุณค่ามากกว่า คือการสนับสนุนผลงานของนักออกแบบท้องถิ่น หรือเลือกซื้อเครื่องประดับวินเทจที่มีเรื่องราวและความคงทน เครื่องประดับที่ทำด้วยมือหรือผลิตในจำนวนน้อยมักใส่ใจในรายละเอียดมากกว่า ใช้วัสดุที่มีคุณภาพสูง และมีอายุการใช้งานยาวนาน การลงทุนในสิ่งเหล่านี้ไม่เพียงช่วยรักษาโลก แต่ยังช่วยให้คุณได้ของที่มีเอกลักษณ์และแตกต่างจากกระแสชั่วคราวที่เปลี่ยนไปทุกฤดูกาล

เทรนด์ TikTok ที่มากเกินไปในโลกเครื่องประดับ

ในยุคที่โซเชียลมีเดียมีอิทธิพลต่อแฟชั่นอย่างมาก TikTok กลายเป็นแพลตฟอร์มหลักที่ผลักดันเทรนด์เครื่องประดับใหม่ ๆ อย่างรวดเร็ว ดีไซน์ที่ดูสะดุดตา แปลกใหม่ หรือโดดเด่นบนหน้าจอมักกลายเป็นไวรัลในพริบตา แต่ปัญหาคือ ความสวยแบบ "ไวรัล" เหล่านี้มักไม่ยั่งยืน และเมื่อมองในชีวิตจริง เครื่องประดับที่เน้นความแปลกเพื่อให้เข้ากับเทรนด์ในคลิปวิดีโอ กลับดูราคาถูกหรือขาดความประณีตในรายละเอียด

เครื่องประดับที่ทำขึ้นเพื่อ “โชว์” หรือถ่ายคอนเทนต์อาจดูน่าสนใจในโลกออนไลน์ แต่เมื่อออกมาอยู่ในโลกจริง บางครั้งกลับขาดความสมดุลทางสุนทรียะหรือไม่เหมาะกับการใช้งานจริงในชีวิตประจำวัน สิ่งที่ดูดีบนหน้าจอไม่เสมอไปว่าจะดูดีเมื่อสวมใส่จริง

แทนที่จะวิ่งตามอัลกอริทึมหรือเทรนด์แบบไม่หยุดพัก การกลับมาให้ความสำคัญกับรสนิยมส่วนตัวคือสิ่งที่สร้างความแตกต่างอย่างแท้จริง เครื่องประดับที่สะท้อนตัวตนของผู้สวมใส่ ไม่ว่าจะทันสมัยหรือคลาสสิก ล้วนมีพลังมากกว่าการตามกระแสชั่วคราว เพราะสไตล์ที่แท้จริง ไม่ได้ถูกกำหนดโดยเทรนด์ แต่เกิดจากการเลือกอย่างมีจุดยืนและมั่นใจในสิ่งที่เป็นคุณ

เครื่องประดับพลาสติกสำหรับผู้ใหญ่

เครื่องประดับพลาสติกหลากสีสันแบบที่เคยฮิตในยุคปี 2000 กำลังกลับมาอีกครั้งในแฟชั่นยุคปัจจุบัน ทั้งสร้อยลูกปัด สร้อยตัวอักษร หรือต่างหูพลาสติกดีไซน์แปลกตา ดูสนุก สดใส และเต็มไปด้วยความรู้สึกย้อนวัย แต่คำถามสำคัญคือ จุดไหนที่ความสนุกกลายเป็นความมากเกินไป? เพราะในบางครั้ง ความพยายามจะนำอดีตกลับมาโดยไม่ปรับให้เข้ากับปัจจุบัน อาจทำให้ลุคดูเหมือนเครื่องแต่งกายเด็ก มากกว่าจะเป็นสไตล์ของผู้ใหญ่ที่มีความมั่นใจ

ไม่ใช่ทุกอย่างจากอดีตที่ควร “ปลุกชีพ” กลับมา ความคิดถึงในวัยเด็กแม้จะอบอุ่น แต่เมื่อหยิบมาใช้แบบไม่กลั่นกรอง อาจทำให้เสียสมดุลของความมีรสนิยม โดยเฉพาะเมื่อเครื่องประดับพลาสติกมักมีคุณภาพต่ำ และดีไซน์ที่ไม่ได้รับการปรับให้เหมาะกับผู้ใหญ่ในปัจจุบัน

หากต้องการความสนุกและสีสันในการแต่งตัวโดยไม่เสียความเท่ ลองเลือกใช้เครื่องประดับที่มีสีสดแต่ทำจากวัสดุคุณภาพดี เช่น อะคริลิก หินสี หรือเรซินที่ผ่านงานออกแบบร่วมสมัย หรืออาจเลือกชิ้นที่มีความเล่นสนุกในดีไซน์ แต่ยังคงโครงสร้างเรียบง่ายและไม่เกินพอดี เพื่อให้ได้ลุคที่ทั้งสนุก สดใส และยังดูดีในแบบของผู้ใหญ่ที่มีรสนิยมและความมั่นใจในตัวเอง

บทส่งท้าย

ในโลกที่เทรนด์เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา การมีสไตล์ที่เป็นของตัวเองคือสิ่งที่ยั่งยืนและมีคุณค่ามากที่สุด เครื่องประดับไม่ควรถูกมองเพียงแค่ของตกแต่งตามกระแส แต่ควรเป็นภาษาที่ใช้สื่อสารตัวตน ความรู้สึก หรือแม้แต่ความเชื่อของผู้สวมใส่ได้อย่างลึกซึ้ง

เมื่อเราหยุดวิ่งตามกระแส และเริ่มเลือกสิ่งต่าง ๆ ด้วยความตั้งใจ เรากำลังสร้างภาษาความงามเฉพาะตัวที่ไม่มีใครลอกเลียนแบบได้ การแต่งกายจึงไม่ใช่แค่การตามเทรนด์ แต่เป็นการบอกเล่าเรื่องราวของเรา ผ่านสิ่งเล็ก ๆ อย่างเครื่องประดับที่มีความหมาย

เทรนด์อาจเปลี่ยนไปในทุกฤดูกาล แต่สไตล์คือสิ่งที่อยู่กับเราเสมอ และสะท้อนความเป็นตัวเราได้อย่างแท้จริง เพราะ "เทรนด์มาแล้วก็ไป แต่สไตล์จะอยู่กับคุณเสมอ"